ปรับพฤติกรรมสู้ฝุ่น PM 2.5

ฝุ่นตัวจิ๋ว ที่อนุภาคไม่จิ๋ว กับพลังการทำลายล้างสูง

“เช้านี้อากาศดีจังเลย” อากาศอันบริสุทธิ์กับหมอกสีขาว ในความคิดของใครหลายคนคงพังทลายลงในทุกเช้าของการตื่นนอน เพราะอันที่จริงแล้วนั้นคือ ฝุ่นละอองในอากาศที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ยิ่งถ้ามีปริมาณฝุ่นที่สูง ก็อาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเป็นหมอกหรือควัน

ถึงแม้ว่าเขตลาดกระบัง จะอยู่ชานเมืองก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นเขตเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีค่าฝุ่นอยู่ในขั้นที่สูง เพราะการใช้รถใช้ถนน โรงงานอุตสาหกรรม
การเผาขยะ หรือแม้แต่ควันบุหรี่ และรวมถึงพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ จึงทำให้มีมลพิษสะสมมากกว่าจังหวัดอื่น

นี่คงเป็นปัญหาร้ายแรงที่รอใครสักคนมาแก้ไข

รศ. ดร.ประพัทธ์พงษ์ อุปลา รักษาการแทนผู้อำนวยกาสำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ผู้ที่เข้าใจเรื่องฝุ่น และตระหนักว่า เราอยู่กับมันได้

อยู่ร่วมกับ PM 2.5

เราอยู่ร่วมกับ PM 2.5 มาประมาณ 5 ปีได้แล้ว จะสังเกตได้ว่า จะมีปริมาณสูงในช่วงเช้า และจะเบาบางลงในช่วงบ่าย ถ้าบริเวณพื้นดินปริมาณของฝุ่นจะไม่สูงเท่ากับด้านบน เพราะฉะนั้นแล้วคนที่อยู่ตึกสูง หรือคอนโด ไม่ใช่ว่าเปิดหน้าต่างรับอากาศช่วงเช้า แล้วคิดว่านั้นคืออากาศบริสุทธ์ แต่ที่จริงแล้วนั้นคือฝุ่น PM 2.5 เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวัง ส่วนการออกกำลังกายในช่วงเช้าแนะนำว่าก็ควรงดไปก่อน

อีกอย่างหนึ่งที่สามารถช่วยได้นั้นก็คือ เครื่องฟอกอากาศ หรือพวกต้นไม้ฟอกอากาศ ตัวช่วยในการดักจับสารพิษในอากาศ และสามารถป้องกันฝุ่นละอองได้ อย่างเช่น

ต้นลิ้นมังกร ไม้ประดับที่สามารถปลูกและดูแลรักษาได้ง่าย เป็นพืชที่คายก๊าซออกซิเจนในเวลากลางคืน แต่จะคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในตอนกลางวัน จึงเหมาะสำหรับการปลูกในห้องนอน

ต้นไทรใบสัก เป็นพันธุ์ไม้ในบ้านที่กำลังได้รับความนิยม เหมาะกับอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรา สามารถปลูกในบ้านหรือตัวอาคารที่มีแสงแดดรำไรได้ ไม่ต้องการน้ำมาก และดูแลง่าย

วิธีช่วยลด PM 2.5

ทางภาครัฐเองพยายามให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน อย่าได้ตื่นตระหนกจนเกินไป ซึ่งก็พยายามควบคุมโดยใช้กฎหมาย อย่างเช่น การตรวจรถฝุ่นควันดำ ลดการใช้รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเยอะ ๆ เป็นต้น ส่วนในภาคเกษตรกรเองก็ควรงดการเผาในที่โล่งช่วงฤดูหนาว หรือแม้แต่ประชาชนอย่างเราเองก็ควรเลี่ยงการทำกิจกรรมในช่วงที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 หนาแน่นด้วยเช่นกัน

สจล. กับการจัดการ PM 2.5

พระจอมเกล้าลาดกระบังมีส่วนช่วยในเรื่องของการจัดการ PM 2.5 ตั้งแต่แรกเริ่ม ในช่วงแรก มีการวัดค่าฝุ่น และทำความเข้าใจพฤติกรรมของฝุ่น ช่วงที่สอง ก็เริ่มที่จะให้ข้อมูลแก่ประชาชน และช่วงที่สาม มีการพัฒนานวัตกรรมการกำจัดฝุ่น PM 2.5 เพื่อตอบสนองต่อกลุ่มที่เซนซิทีฟมากที่สุด นั้นก็คือเด็ก ๆ จึงได้พัฒนานวัตกรรม ห้องปลอดฝุ่น PM 2.5 เพื่อให้พักคอยเวลานั่งรอรถประจำทางหรือรอผู้ปกครอง

“เพราะเราจำเป็นที่จะต้องอยู่กับมัน เพราะฉะนั้นแล้วอย่าตระหนกกับมัน แต่ตระหนักว่าเราอยู่ร่วมกับมันได้ เราก็ต้องปรับพฤติกรรมเราให้เหมาะสมและอยู่กับมันให้ได้”
รศ. ดร.ประพัทธ์พงษ์ อุปลา กล่าว