รวมพลังสร้างอนาคต เปลี่ยนไทย
“เปลี่ยนโลกด้วยนวัตกรรม”
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโลกของเราในยุคนี้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แบบวันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมง จนนาทีต่อนาทีเลยก็ว่าได้ และเพื่อการเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเช่นนี้ อะไรล่ะที่จะเข้ามาเป็นตัวช่วยให้เราตามโลกใบนี้ได้ทัน อะไรล่ะที่จะทำให้เราใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คำตอบก็คือ “นวัตกรรม” นั่นเอง
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มุ่งมั่นตั้งใจสร้างงานวิจัยและองค์ความรู้ในด้านนวัตกรรมและเทคโลยี รวมถึงงานวิจัยอื่น ๆ ในหลากหลายสาขาวิชา เพื่อตอบโจทย์สำหรับการดำเนินชีวิตในยุคนี้ และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ในปี 2565 ที่ผ่านมา สจล. ได้รับการจัดอันดับจาก Time Higher Education ให้เป็นที่ 1 ในด้านงานวิจัย และเพื่อตอกย้ำความสำเร็จอีกขั้นของสถาบัน รศ. ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. จึงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะจัดงาน KMITL Innovation Expo เพื่อให้น้อง ๆ นักศึกษาได้มีพื้นที่แสดงผลงานความสามารถของตนเองซึ่งจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง และเพื่อเดินหน้าสานต่อความสำเร็จให้ สจล. ก้าวไปสู่ “The World Master of Innovation”
อธิการบดี สจล.
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา สจล. จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวมหกรรมผลงานจากนักวิจัย สจล. นำตัวอย่างผลงานมาเรียกน้ำย่อยด้วยนวัตกรรม 4 ชิ้นด้วยกัน นวัตกรรมชิ้นแรกแบตเตอรี่กราฟีน เป็นผลงานจากคณะวิทยาศาสตร์ สจล. นำโดย รศ.ดร.เชรษฐา รัตนพันธ์ แบตเตอรี่กราฟีนนี้สามารถกักเก็บประจุไฟฟ้าได้มากขึ้น และมีอัตราการอัดประจุได้ที่รวดเร็วขึ้นจากแบตเตอรี่แบบเดิม ราคาถูก ไม่ระเบิด จึงปลอดภัยต่อการใช้งาน
ทั้งยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากการใช้วัสดุการเกษตรเหลือใช้ภายในประเทศ สนับสนุนแนวเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ได้อีกด้วย และในอนาคตก็จะมีการพัฒนาในเฟสที่ 3 และ 4 ต่อไปเพื่อให้แบตเตอรี่นี้สามารถใช้ได้กับยานยนต์ไฟฟ้า EV เพื่อรองรับต่ออุตสาหกรรมใหม่ ๆ
ผ้าไหมไทยย้อมกราฟีนแบบใส่ในเมืองร้อนและเมืองหนาว ผลงานวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ สจล. นำโดย รศ.ดร.เชรษฐา รัตนพันธ์ ได้คิดค้นที่จะพัฒนาเส้นด้ายไหมและผลิตผ้าไหมด้วยวัสดุอนุพันธ์กราฟีน ที่มีคุณสมบัติพิเศษทางความร้อนแตกต่างกัน การย้อมกราฟีนจะทำให้เส้นด้ายหรือผ้านั้น ๆ มีคุณภาพดีขึ้น มีความเหนียว แข็งแรงคงทนมากขึ้น พร้อมทั้งสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา และยังสามารถป้องกันฝุ่นละอองได้ ซึ่งนวัตกรรมชิ้นนี้ก็จะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เศรษฐกิจชุมชนและประเทศ และช่วยขับเคลื่อนพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่น รวมทั้งผ้าอุตสาหกรรมของไทยสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น ถือเป็นการยกระดับผ้าไหมไทยไปสู่ตลาดที่กว้างขว้างต่อไปได้ในอนาคต