สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีของไทยอีกครั้ง หลังได้รับการจัดอันดับให้เป็น อันดับ 1 ของประเทศ ในสาขาวิศวกรรมเครื่องกลและอากาศยาน (Mechanical and Aerospace Engineering) ประจำปี 2025 จาก Research.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจัดอันดับนักวิจัยและสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลก
ความน่าสนใจของการจัดอันดับนี้คือการใช้ "ข้อมูล" และ "ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ" เป็นหลัก ไม่ใช่การวัดจากชื่อเสียงหรือการโหวต ซึ่งเป็นแนวทางที่โปร่งใสและได้รับการยอมรับในแวดวงวิชาการและเทคโนโลยีระดับสากล
เจาะลึกเกณฑ์จัดอันดับ เมื่อ "คุณภาพงานวิจัย" คือหัวใจสำคัญ
สิ่งที่ทำให้การจัดอันดับของ Research.com โดดเด่นและน่าเชื่อถือในมุมมองของสาย IT และเทคโนโลยี คือหลักเกณฑ์ที่เน้นข้อมูลเชิงลึก:
- วัดผลด้วย D-index ไม่ได้นับแค่จำนวนงานวิจัย แต่ใช้ค่า D-index (Discipline H-index) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดผลกระทบของงานวิจัยในสาขานั้นๆ โดยตรง ยิ่งค่านี้สูง หมายความว่างานวิจัยของนักวิจัยนั้นๆ ถูกนำไปอ้างอิง (Citation) อย่างกว้างขวางและมีคุณภาพสูง
- ใช้ฐานข้อมูลระดับโลก ข้อมูลทั้งหมดถูกดึงและวิเคราะห์จากฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถืออย่าง OpenAlex และ CrossRef ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลมีความเที่ยงตรงและเป็นกลาง
- เน้นคุณภาพบุคลากร การจัดอันดับจะโฟกัสที่ "คุณภาพของนักวิจัยและทีม" เป็นรายบุคคล ไม่ใช่ภาพรวมของสถาบัน ทำให้สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของบุคลากรในสาขานั้นๆ โดยทีมวิจัยของ สจล. ในสาขานี้มีค่า D-index สูงกว่า 30 ซึ่งถือเป็นระดับที่น่าประทับใจมาก
ความสำเร็จที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรม
รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวว่า ความสำเร็จนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สาขาวิศวกรรมเครื่องกลและอากาศยานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงศักยภาพของสถาบันในการเป็น "The World Master of Innovation" ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์หลัก
"การเป็นที่หนึ่งในสาหานี้ คือเครื่องยืนยันความแข็งแกร่งของกลุ่มวิศวกรรมหลักของสถาบัน ซึ่งรวมถึง วิศวกรรมไฟฟ้า, วิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ที่ล้วนเป็นรากฐานสำคัญของอุตสาหกรรมไอทีและเทคโนโลยีดิจิทัลในปัจจุบัน" ดร.คมสัน กล่าว
ความสำเร็จนี้จึงเป็นสัญญาณบวกต่อภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของไทย ว่า สจล. คือแหล่งผลิตบุคลากรคุณภาพสูงที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์งานวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์เทรนด์โลก ไม่ว่าจะเป็นด้าน Automation, Robotics, IoT, AI หรือเทคโนโลยีอวกาศ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยองค์ความรู้แบบบูรณาการจากหลากหลายสาขาวิศวกรรม
การได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติด้วยข้อมูลเชิงประจักษ์ครั้งนี้ ยิ่งตอกย้ำว่า สจล. พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลและนวัตกรรมอย่างยั่งยืน